Hiểu về APR và APY: Hướng dẫn chọn lợi nhuận tốt nhất cho nhà đầu tư tiền điện tử

ในวงการคริปโตและการเงินดิจิทัล คำศัพท์สองคำที่มักทำให้นักลงทุนมือใหม่สับสนคือ APR (Annual Percentage Rate) และ APY (Annual Percentage Yield) แม้ว่าจะดูเหมือนคล้ายกัน แต่ความแตกต่างระหว่างทั้งสองมีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อรายได้ที่คุณจะได้รับจากการลงทุนหรือการให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล

APR คือ อัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน

APR ย่อมาจาก Annual Percentage Rate หรืออัตราร้อยละต่อปี เป็นการคำนวณที่ง่ายที่สุดในโลกการเงิน ถ้าคุณลงทุน 100 บาทได้ APR 5% หมายความว่าเมื่อสิ้นปี คุณจะมีเงินรวม 105 บาท (เงินต้น 100 บาท + ดอกเบี้ย 5 บาท)

APR ไม่นำการทบต้นดอกเบี้ยมาพิจารณา ซึ่งหมายถึงดอกเบี้ยคำนวณจากเงินต้นเท่านั้น ไม่ใช่จากเงินต้นบวกดอกเบี้ยที่สะสมไว้ก่อนหน้า

ประเภท APR สองแบบที่ควรรู้

APR คงที่ (Fixed APR) ในกรณีนี้ อัตราดอกเบี้ยจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาการลงทุน จำนวนเงินที่คุณจะได้รับทุกปีจึงคงที่เสมอ สำหรับผู้กู้ยืม นี่เป็นข้อดี เพราะสามารถวางแผนการชำระเงินได้ชัดเจน

APR แปรผัน (Variable APR) อัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาดและนโยบายของแพลตฟอร์มการให้กู้ยืม หากตลาดผันผวน อัตรา APY อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลง ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับผู้กู้

APR ในสกุลเงินดิจิทัล

ในวงการคริปโต APR หมายถึงดอกเบี้ยรวมที่ได้รับจากการ Staking หรือการให้ยืมโทเค็นตลอดหนึ่งปี การคำนวณ APR ในคริปโตนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา เพราะไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุน 1.0 Ether (ETH) ใน Lending Pool บนแพลตฟอร์ม DeFi ที่มี APR 24% เมื่อสิ้นปีคุณควรจะได้ 0.24 ETH เพิ่มเติม รวมเป็น 1.24 ETH ทั้งหมด

APY คืออะไร: การทบต้นดอกเบี้ยที่ทำให้เงินของคุณโตเร็วขึ้น

APY ย่อมาจาก Annual Percentage Yield หรืออัตราผลตอบแทนร้อยละต่อปี ต่างจาก APR ตรงที่ APY คำนึงถึงผลกระทบของดอกเบี้ยทบต้น

ความหมายของดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) คือ คุณไม่ได้รับดอกเบี้ยจากเงินต้นเท่านั้น แต่ยังได้รับดอกเบี้ยจากดอกเบี้ยที่สะสมมาก่อนด้วย “ดอกเบี้ยจากดอกเบี้ย” นี่เอง

APY ในสกุลเงินดิจิทัล

ในโลกคริปโต APY เป็นตัวบ่งชี้ผลตอบแทนที่แท้จริง เพราะคำนึงถึงความถี่ของการทบต้น ในบางแพลตฟอร์ม DeFi การทบต้นเกิดขึ้นทุกวัน หรือแม้แต่ทุกชั่วโมง

นี่คือตัวอย่างว่า APR 6% จะแปลงเป็น APY เท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความถี่การทบต้น:

  • ทบต้นทุกครึ่งปี: 6.09%
  • ทบต้นทุกไตรมาส: 6.14%
  • ทบต้นทุกเดือน: 6.17%
  • ทบต้นทุกสัปดาห์: 6.18%
  • ทบต้นทุกวัน: 6.18%

การทบต้นที่บ่อยขึ้น = ผลตอบแทนที่สูงขึ้น

หมายเหตุสำคัญเกี่ยวกับ APR ในจริง

เมื่อพูดถึงบัตรเครดิต APR จะไม่ถูกเรียกเก็บหากคุณชำระเต็มจำนวนภายในวันครบกำหนด อย่างไรก็ตาม หากมีเงินค้างชำระ ดอกเบี้ยจะถูกเพิ่มเมื่อสิ้นสุดรอบบิล

อีกเรื่องที่ต้องระวังคือ APR ไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมปรับเพิ่มเติม หรือค่าเบี้ยประกันภัย ดังนั้นคุณต้องศึกษาข้อกำหนดอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

วิธีการคำนวณ APR และ APY

สูตรพื้นฐานของ APR

APR = P × T

ที่ซึ่ง:

  • P = อัตราดอกเบี้ยต่องวด (เป็นทศนิยม)
  • T = จำนวนงวดในหนึ่งปี

ตัวอย่าง: หากคุณเก็บเงินเดือนละ 0.5% ให้ผลตอบแทน APR คุณจะได้: P = 0.5% × T = 12 เดือน = 6% ต่อปี

สูตรการคำนวณ APY

เนื่องจากดอกเบี้ยทบต้นมีความซับซ้อนมากขึ้น สูตรจึงเป็นดังนี้:

APY = (1 + r/n)^n - 1

ที่ซึ่ง:

  • r = อัตราดอกเบี้ย APR (เป็นทศนิยม)
  • n = จำนวนครั้งของการทบต้นในปี

ปัจจุบันนี้ คุณไม่จำเป็นต้องคำนวณด้วยมือ เพราะแพลตฟอร์ม DeFi ส่วนใหญ่จะแสดง APY ให้เห็นอยู่แล้ว

ตัวอย่างการคำนวณขั้นสูง

สมมติคุณลงทุน 10,000 บาทด้วยอัตรา 5% ต่อปี:

แบบ APR (ไม่ทบต้น):

  • ปีที่ 1: 10,000 + 500 = 10,500 บาท
  • ปีที่ 2: 10,000 + 1,000 = 11,000 บาท
  • ปีที่ 3: 10,000 + 1,500 = 11,500 บาท

แบบ APY (ทบต้นรายปี):

  • ปีที่ 1: 10,500 บาท
  • ปีที่ 2: 11,025 บาท
  • ปีที่ 3: 11,576.25 บาท

ความแตกต่างในปีที่ 3 คือ 76.25 บาท ในระยะเวลานานขึ้น ความแตกต่างนี้จะมากขึ้นเรื่อย ๆ

APR vs APY: ความแตกต่างที่จำเป็นต้องรู้

ด้าน APR APY
การทบต้นดอกเบี้ย ไม่นำมาพิจารณา คำนึงถึงการทบต้น
ผลตอบแทน ต่ำกว่า APY สูงกว่า APR
เหมาะสำหรับ ผู้กู้ยืม ผู้ลงทุน/นักออม
ความนิยม ใช้ในการกู้ยืม ใช้ในการลงทุน

ทำไม APY มักสูงกว่า APR

ความแตกต่างที่สำคัญนี้เกิดจากการทบต้น เมื่อคุณได้รับดอกเบี้ยจากดอกเบี้ย เงินของคุณจะเติบโตเป็นอัตราเร่ง บนแพลตฟอร์ม DeFi ที่ทบต้นรายวัน ผลกระทบนี้จะเห็นได้ชัดเจนในระยะยาว

ตัวอย่างเช่น หากคุณ Staking บนแพลตฟอร์มที่ให้ APY 20% ต่อปี ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดเงินที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้ผลตอบแทนสูงขึ้นกว่าเพียงแค่เอา APR 20% มาคูณกับเงินต้น

การประยุกต์ใช้ APR และ APY ในโลกคริปโต

Staking: เก็บเงินและหารายได้

การ Staking เป็นกลไกการลงทุนแบบพาสซีฟ คุณ “ล็อค” โทเค็นของคุณในบล็อกเชน เพื่อสนับสนุนกลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Stake และได้รับดอกเบี้ยตอบแทน

ที่นี่ APY มักเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีกว่า เพราะดอกเบี้ยทบต้นจะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ

Yield Farming: หาผลตอบแทนจากสภาพคล่อง

ในกลไก Yield Farming คุณมอบโทเค็นให้กับ liquidity pool เพื่อให้คนอื่นสามารถทำการแลกเปลี่ยนได้ คุณจะได้รับส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมและโทเค็นรางวัล

APY ในที่นี้มักจะสูงมาก แต่ต้องระวังกับความเสี่ยง เช่น impermanent loss

ใครควรใช้ APR และใครควรใช้ APY

ใช้ APR หากคุณ:

  • เป็นผู้กู้ยืมเงิน (ต้องการอัตราต่ำสุด)
  • ต้องการเปรียบเทียบต้นทุนการกู้ยืมในแต่ละที่

ใช้ APY หากคุณ:

  • เป็นนักลงทุน/ผู้ออม (ต้องการผลตอบแทนสูงสุด)
  • ลงทุนใน Staking หรือ Lending Pool ระยะยาว
  • ต้องการเปรียบเทียบโปรแกรมออมทรัพย์ต่าง ๆ อย่างแม่นยำ

สรุป: APR และ APY ต่างกันยังไง

APR คือดอกเบี้ยแบบเส้นตรง ไม่มีการทบต้น เหมาะสำหรับใคร ที่ต้องการเข้าใจต้นทุนการกู้ยืมอย่างง่าย ๆ APY นั้นสะท้อนผลตอบแทนที่แท้จริง เพราะคำนึงถึงการทบต้นซ้ำ ๆ เมื่อต้องตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มการลงทุนคริปโต ให้แน่ใจว่าคุณกำลังมองหาอัตรา APY ไม่ใช่ APR เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนว่าเงินของคุณจะโตเท่าไหร่ตามจริง

ผลต่างระหว่าง APR และ APY อาจดูเล็กน้อยในระยะสั้น แต่ในการลงทุนระยะยาว ความแตกต่างนี้จะมีความหมายอย่างยิ่ง เมื่อเข้าใจความแตกต่างนี้แล้ว คุณจะสามารถเลือกโอกาสการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตัวเองได้ดีขึ้น

ETH-0.38%
DEFI-4.1%
Xem bản gốc
Trang này có thể chứa nội dung của bên thứ ba, được cung cấp chỉ nhằm mục đích thông tin (không phải là tuyên bố/bảo đảm) và không được coi là sự chứng thực cho quan điểm của Gate hoặc là lời khuyên về tài chính hoặc chuyên môn. Xem Tuyên bố từ chối trách nhiệm để biết chi tiết.
  • Phần thưởng
  • Bình luận
  • Đăng lại
  • Retweed
Bình luận
0/400
Không có bình luận
  • Ghim