## Divergent Pattern ในเทรดดิ้ง: ความเข้าใจและการประยุกต์ใช้ที่ถูกต้อง



ในวงการเทรด สัญญาณทางเทคนิคมักจะเป็นตัวช่วยสำคัญของนักเทรด อย่างไรก็ตาม บางครั้งราคาและอินดิเคเตอร์ไม่ได้เดินหนึ่งเดียวกัน และนี่คือจุดที่เรียกว่า **Divergence** หรือในบริบทของ divergent pattern ที่กำลังจะเกิดขึ้น

### ก่อนเข้าเทรด: รู้จัก Divergence ให้ดี

**Divergence คือสถานการณ์ที่ราคาและอินดิเคเตอร์ไม่ได้บอกเรื่องราวเดียวกัน** ถ้าราคากำลังเคลื่อนไหวในทิศทางหนึ่ง แต่อินดิเคเตอร์ไม่ได้ส่งสัญญาณยืนยันนั้น ก็แสดงว่าอาจมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ตรงกัน

สถานการณ์นี้ไม่ได้หมายความว่าอินดิเคเตอร์เสีย แต่เป็นการบ่งชี้ว่าแนวโน้มราคาปัจจุบันอาจกำลังเปลี่ยนแปลง หรือกำลังอ่อนตัวลง การรู้จักอ่านสัญญาณ divergent pattern ได้ถูกต้องจะช่วยให้นักเทรดเลือกจังหวะเข้าสถานะได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

### ประเภทของ Divergence ที่ต้องรู้

#### 1. Regular Divergence – สัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม

**Regular Divergence คือเครื่องหมายที่บ่งบอกว่าแนวโน้มราคาปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดลง** เมื่อเห็นแบบนี้ ประมาณ 60-70% ของครั้งจะตามด้วยการกลับตัวของราคา

- **Bullish Divergence**: ราคาลงต่อ แต่อินดิเคเตอร์ไม่ได้ยืนยันการลง → ราคาจะกลับตัวขึ้น
- **Bearish Divergence**: ราคาขึ้นต่อ แต่อินดิเคเตอร์ไม่ได้ยืนยันการขึ้น → ราคาจะกลับตัวลง

#### 2. Hidden Divergence – สัญญาณการดำเนินต่อของแนวโน้ม

**Hidden Divergence กลับทำนายทิศตรงกันข้าม** มันบอกว่าแนวโน้มเดิมยังไม่เสร็จสิ้น

- **Hidden Bullish Divergence**: ราคาปรับลงแบบอ่อน แต่อินดิเคเตอร์ยังส่งสัญญาณขาลงแข็งแรง → ขาลงจะดำเนินต่อ
- **Hidden Bearish Divergence**: ราคาปรับขึ้นแบบอ่อน แต่อินดิเคเตอร์ยังส่งสัญญาณขาขึ้นแข็งแรง → ขาขึ้นจะดำเนินต่อ

### อินดิเคเตอร์ที่ใช้อ่านสัญญาณ Divergence ได้ดี

#### MACD – ตัวจริงของ Divergent Pattern

MACD แสดงโมเมนตัมของราคาผ่านเส้นค่าเฉลี่ย เมื่อราคาทำจุดสูง/ต่ำใหม่ แต่ MACD ไม่ได้ทำจุดสูง/ต่ำใหม่ตามไป ก็คือ divergent pattern เกิดขึ้นแล้ว

#### RSI – การวัดแรงซื้อแรงขาย

RSI ที่สูงกว่า 70 บอกว่าซื้อเยอะเกินไป RSI ต่ำกว่า 30 บอกว่าขายเยอะเกินไป เมื่อราคาทำจุดสูงใหม่แต่ RSI ไม่ได้ทำจุดสูงใหม่ → Bearish Divergence กำลังเกิด

#### Williams Percent Range – อีกหนึ่งตัวช่วยอ่าน Divergence

%R ที่มากกว่า 80 คือภาวะซื้อมากเกินไป %R ต่ำกว่า 20 คือภาวะขายมากเกินไป ความขัดแย้งในพื้นที่นี้จะชี้แนะการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มได้ดี

### วิธีเทรด Divergence ขั้นตัวจริง

#### วิธีการเทรด Regular Divergence (Reversal Play)

1. **มองหา Higher High หรือ Lower Low บนชาร์ตราคา** นี่คือรูปแบบที่บอกว่าราคากำลังบีบตัวเข้าสู่จุดเปลี่ยนแปลง

2. **ดู RSI หรือ MACD ว่าทำ Higher High หรือ Lower Low ไหม** ถ้าทำไม่ได้ → สัญญาณขัดแย้งโผล่มา

3. **รอให้ราคาแสดงสัญญาณกลับตัวชัดเจน** เช่น แท่งเทียนจาก overbought/oversold กลับมาตรงกลาง หรือราคาเบรกเส้นสำคัญ

4. **เข้าเทรดในทิศทางตรงกันข้าม** หากเห็น Bearish Divergence ให้ขาย เห็น Bullish Divergence ให้ซื้อ

5. **ตั้ง Stop Loss ให้กระชับ** เพราะ Divergence ไม่ใช่สัญญาณที่แม่นยำ 100%

#### วิธีการเทรด Hidden Divergence (Continuation Play)

1. **มองหา Higher Low หรือ Lower High ที่อ่อนแรง**

2. **อินดิเคเตอร์ยังแสดงสัญญาณแข็งแรง**

3. **เข้าเทรดตามแนวโน้มเดิม** ซื้อในขาขึ้น ขายในขาลง

4. **เป้าหมายกำไร** ตั้งให้กว้าง เพราะแนวโน้มยังจะเดินต่อ

### ตัวอย่างจริงในการเทรด

#### Bullish Divergence ในการปรับตัวลง

นึกภาพว่า Bitcoin ลงมาหลายอินด์อยู่ RSI หลุด 30 (oversold) แต่เมื่อราคาลงต่อไปและทำจุดต่ำใหม่ (Lower Low) RSI ปรับตัวแล้ว ไม่ได้ต่ำไปกว่าเดิม (ไม่ทำ Lower Low) นี่คือสัญญาณ → ราคาอาจหวิดกลับตัวขึ้น

เมื่อมีแท่งเทียนสีเขียวขนาดใหญ่โผล่ มา นั่นคือจังหวะซื้อ

#### Bearish Divergence ในการปรับตัวขึ้น

ราคา Ethereum ขึ้นมาหลายครั้ง RSI เข้า 70 (overbought) เมื่อราคาขึ้นต่อไปและทำจุดสูงใหม่ (Higher High) แต่ RSI ไม่ได้ขึ้นไปกว่าเดิม (ไม่ทำ Higher High) นี่คือสัญญาณว่าแรงขึ้นพอจะหมดลง

เมื่อมีแท่งเทียนสีแดงขึ้นมา นั่นคือจังหวะขาย

#### Hidden Bullish Divergence ในขาลง

ราคาลงแต่ละทีค่อย ๆ ขึ้นน้อย ๆ (Higher Low) สร้างคลื่นลง MACD ยังทำจุดต่ำใหม่ (Lower Low) → สัญญาณบอกว่าขาลงยังจะเดินต่อ ให้ไป Short ได้อีก

#### Hidden Bearish Divergence ในขาขึ้น

ราคาขึ้นแต่ละทีค่อย ๆ ลงน้อย ๆ (Lower High) สร้างคลื่นขึ้น RSI ยังทำจุดสูงใหม่ (Higher High) → ขาขึ้นยังจะดำเนินต่อ ให้ไป Long ได้อีก

### ข้อระวัง: Divergence ไม่ใช่สัญญาณที่ชัวร์ 100%

1. **False Signal** บางทีมี divergence แต่ราคาก็ไม่กลับตัว คือมันเกิดหลายรอบจนกว่าราคาจะจริงๆ กลับตัว

2. **ต้องรอสัญญาณยืนยัน** อย่าโดดเข้าเดี๋ยวที่เห็น divergence ให้รอให้ราคากระแทกลงมาจากเทรนด์หรือเบรกระดับสำคัญ

3. **รวมกับเครื่องมืออื่น** divergent pattern ดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับ Support/Resistance เส้นเทรนด์ หรือ Moving Average

4. **ตั้ง Risk Management ที่ดี** Stop Loss ต้องกระชับ ไม่ใช่ทุกครั้งที่มี divergence ราคาก็จะเดินตามที่คาด

### เคล็ดลับให้เห็น Divergence ได้ง่ายขึ้น

- ใช้ Timeframe ตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป Divergence ที่ชัดขึ้น
- ดู 2-3 อินดิเคเตอร์พร้อมกัน MACD + RSI + Stochastic ถ้า divergent pattern เห็นใน 2 ตัวก็แข็งขึ้น
- วาดเส้น Peak to Peak สำหรับราคา และ Peak to Peak สำหรับอินดิเคเตอร์ ถ้าเส้นทั้งสองไม่ขนานก็มี divergence
- บันทึกรูปแบบที่เห็น เมื่อวิเคราะห์เพิ่มเติมจะรู้ว่า Divergence แบบไหนทำงานได้ดีใน Market Style ของคุณ

### สรุป: Divergence เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่อาวุธที่สุดท้าย

Divergence และ divergent pattern เป็นตัวช่วยที่หนักแน่นสำหรับนักเทรด แต่มันไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับการเทรดได้กำไร ประสิทธิภาพของมันขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้าใจมันได้ลึกแค่ไหน และนำมาใช้ร่วมกับการบริหารความเสี่ยงที่ดี

**ทดลองเทรดกับเงินเสมือน $50,000 ฟรี** ไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง ฝึกอ่านสัญญาณ Divergence จนเชี่ยวชาญ ก่อนที่จะเริ่มเทรดจริง
BTC0.6%
ETH0.02%
このページには第三者のコンテンツが含まれている場合があり、情報提供のみを目的としております(表明・保証をするものではありません)。Gateによる見解の支持や、金融・専門的な助言とみなされるべきものではありません。詳細については免責事項をご覧ください。
  • 報酬
  • コメント
  • リポスト
  • 共有
コメント
0/400
コメントなし
  • ピン