2025 年是學習的好年份:5 本值得一讀的股票書籍——投資新手的基本指南

在進入股市之前,新手應該攜帶良好的股票相關書籍知識,因為市場不易預測,準備充分是成功者與虧損者之間的差異。今天整理2025年值得閱讀的投資書籍,幫助投資者了解市場機制與選股技巧,創造獲利。

投資者必備圖書館:5本必讀書

1. 孵化股票,見效持久——純正泰國投資基礎

這是新手認識股市的最佳入門書,作者是泰國價值投資理念的先驅กวี ชูกิจเกษม,內容用地道泰語撰寫,條理清晰,讓讀者在一本書中就能理解。

為何要讀:書中解釋價值投資者的思考方式,涵蓋企業競爭力、毛利率、重要的市盈率(P/E)與市帳率(P/BV),所有範例皆為泰國股市,易於理解。

適合誰:投資新手、剛踏入股市者、需要打好基礎再深入的人。

กวีได้รับการยอมรับในวงการเป็นนักวิเคราะห์ชั้นแนวหน้า ได้รับรางวัลนักกลยุทธ์ยอดเยี่ยม และหนังสือเล่มนี้พิมพ์ซ้ำแล้ว 12 ครั้ง แสดงว่านักลงทุนไทยให้ความไว้วางใจ หนังสือเกี่ยวกับหุ้นเล่มนี้เป็น “ปืนลูกแรก” ที่มีประสิทธิผล

ข้อดี:อ่านง่าย มีตัวอย่างไทย ทำความเข้าใจได้จริง ข้อเสีย:เนื้อหาเบื้องต้น อาจต้องศึกษาต่อในระดับที่ลึกขึ้น


2. The Intelligent Investor - หนังสือไขความลับ Value Investing ระดับโลก

ต่างประเทศเรียกหนังสือของ Benjamin Graham ว่า “พระคัมภีร์การลงทุน” เล่มนี้ออกเมื่อปี 1949 แล้ว Warren Buffett ก็ยกย่องว่า “เป็นหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุด”

ทำไมต้องอ่าน:เกรแฮมแบ่งนักลงทุนเป็น 2 ประเภท - เชิงรับ (ความเสี่ยงต่ำ) กับ เชิงรุก (ให้เวลาศึกษาวิเคราะห์) สำหรับแต่ละแบบ มีกลยุทธ์แตกต่างกัน เกรแฮมสามารถทำผลตอบแทนเฉลี่ย 20% ต่อปี ช่วงปี 1936-1956 ขณะที่ตลาดเพียง 12.2%

เหมาะกับใคร:ผู้มีความรู้หุ้นระดับหนึ่ง พร้อมความอดทนอ่านต่อ เพราะเนื้อหาเข้มข้น

เกรแฮมเป็นใคร:ผู้คิดค้นหลักการ Value Investing อย่างแท้จริง ได้อิทธิพลต่อคนรุ่นหลัง จนถึงบัฟเฟตต์

ข้อดี:เป็นมาตรฐานการลงทุนแบบ Value Investing ที่ชัดเจน ข้อเสีย:ภาษาแปลยาก คำศัพท์เข้าใจยาก บางประโยคอ่านแล้วเข้าใจยาก เหมาะสำหรับผู้มีพื้นฐานแล้ว


( 3. แตกฉานกลยุทธ์ลงทุนในช่วงวิกฤต - “หนังสือหุ้น” ที่สร้างเศรษฐีไทย

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้บุกเบิก Value Investing ในไทย เขียนเล่มนี้ในปี 2542 ปัจจุบันกลายเป็นคัมภีร์การลงทุนของคนรุ่นใหม่

ทำไมต้องอ่าน:ดร.นิเวศน์เขียนเป็นเรื่องราวเล่าเรื่อง ไม่ใช่บรรยายแบบเทพ เนื้อหาแบ่งเป็นบทชัดเจน สอดแทรกประสบการณ์จริง ผู้อ่านเข้าใจว่าเมื่อวิกฤตมา โอกาสซ่อนอยู่ที่ไหน

เหมาะกับใคร:นักลงทุนหุ้นมือใหม่ทั้งหมด เล่มแรกเป็นของดีที่เปลี่ยนใจให้เข้าตลาด

ดร.นิเวศน์มีหนังสือเกี่ยวกับหุ้นอีกกว่า 17 เล่ม แต่เล่มนี้ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง สะท้อนวัฒนธรรมการลงทุนของคนไทย

ข้อดี:เขียนง่าย เข้าใจง่าย ตัวอย่างเป็นหุ้นไทยใกล้ตัว ข้อเสีย:เนื้อหาเบื้องต้น ยังไม่ลึกซึ้ง เหมาะสำหรับเข้าใจภาพรวมเท่านั้น


) 4. One Up on Wall Street - ศิลปะการเก็งกำไรหุ้นโตเร็ว

Peter Lynch ผู้บริหารกองทุน Magellan Fund ที่เติบโตจาก 18 ล้านเหรียญเป็น 14,000 ล้านเหรียญใน 13 ปี เขามองโลกหุ้นแตกต่างจากคนอื่น

ทำไมต้องอ่าน:Lynch แบ่งหุ้นเป็น 6 ประเภท - โตช้า โตเร็ว วัฏจักร ฟื้นตัว แข็งแกร่ง และทรัพย์สินมาก สำหรับแต่ละประเภท มีกลยุทธ์แตกต่างกัน หนังสือเล่มนี้ครอบคลุมการวิเคราะห์หุ้นแบบครบถ้วน และ Lynch มองหา “Tenbagger” - หุ้นที่มีศักยภาพเติบโตได้ 10 เท่า

เหมาะกับใคร:ผู้เข้าใจปัจจัยพื้นฐาน ต้องการศึกษาการเลือกหุ้นเพื่อการเติบโต

Lynch คิดว่า:มือสมัครเล่นธรรมชาติสามารถลงทุนได้สำเร็จเหมือนมืออาชีพ เพราะนักลงทุนรายย่อยสามารถมองหุ้นจากมุมมองที่ผู้จัดการกองทุนใหญ่ไม่เห็น

ข้อดี:ครอบคลุมหลายด้าน สนุก ไม่เน้นศัพท์เทคนิคมาก ข้อเสีย:ฉบับแปลไทย สำนวนแปลไม่ชัดเจน บางประโยคเข้าใจยาก ตัวอย่างหุ้นต่างประเทศทั้งหมด


5. Buffettology - ศาสตร์วิธีลงทุนของบัฟเฟตต์

Mary Buffett ลูกสะใภ้เก่าของ Warren Buffett เผยความลับแนวคิดการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน

ทำไมต้องอ่าน:หนังสือนี้ “แมวพูดเพราะ” วิธีคิดของบัฟเฟตต์ จากมุมมองว่าการซื้อหุ้นคือการเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่เก็งกำไรขายในวันถัดไป สุดท้ายอธิบาย DCF ###Discount Cash Flow### ที่บัฟเฟตต์ใช้

เหมาะกับใคร:นักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้ว ต้องการเข้าใจแนวคิด “ราชา” ของการลงทุน

บัฟเฟตต์ไม่ได้เปิดเผยเคล็ดลับธรรมชาติให้ใครง่ายๆ หนังสือเล่มนี้เป็น “ดักหนีสูง” ที่นักลงทุนสามารถสอดส่องได้

ข้อดี:มีสมการชัดเจน เนื้อหาเข้าใจง่าย ปัจจัยกำไรระยะยาว ข้อเสีย:ซับซ้อนสูง ต้องใช้เวลาวิเคราะห์นาน การลงทุนอาจใช้เวลาถึง 10-20 ปี


วิธีคัดเลือกหนังสือเกี่ยวกับหุ้นที่ตรงใจคุณ

( ทำไมมือใหม่ควรอ่านหนังสือ?

ใครก็ลงทุนได้ แต่ผู้ที่ศึกษามาแล้วจะเห็นข้อผิดพลาดของ “คนอื่น” ทำให้มีเกราะป้องกัน ยิ่งศึกษามาก ยิ่งหลีกเลี่ยงกับดักได้มากขึ้น ไม่ว่าจะผลลัพธ์เป็นเช่นไร สายไหนคุณเลือก

) ถ้าไม่อ่านเลย จะลงทุนได้ไหม?

ได้ แต่ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ทางเลือกคือ ลงทุนกองทุนรวม ให้ผู้จัดการบริหารแทน ง่ายกว่า แต่สายเก่งก็ยังแนะนำให้อ่านเล่มหนึ่ง เพื่อเข้าใจว่าทำไมเงินของคุณถึงนั่งอยู่ตรงไหน

ก้าวแรก: เลือกหนังสือไทย เลือกหนังสือเกี่ยวกับหุ้นที่เขียนโดยคนไทย

ภาษาตรงกับบริบท ตัวอย่างหุ้นไทย กับตลาดหุ้นไทยที่คุณสนใจ แปลจากต่างประเทศบ่อยครั้งอาจเสียสัญญา เสี่ยงหุ้นต่างประเทศก็ยังไม่พอ


3 วิธีที่นักลงทุนชนะตลาด

1. จับจังหวะซื้อขาย ###Market Timing###:ซื้อให้ถูก ขายให้แพง ใช้ได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

2. คัดเลือกหลักทรัพย์ (Asset Selection):หุ้นดีในอนาคต ตรวจสอบด้วยการวิเคราะห์ ไม่ใช่เดาแบบสุ่ม มิฉะนั้นเงินเฟ้อจะกินรายได้เล็กน้อย

3. จัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation):กระจายหุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ เงินสด ตามสัดส่วน เพื่อลดความผันผวน ให้เงินเติบโต

หนังสือ 5 เล่มนี้สามารถช่วยให้นักลงทุนทำได้ถูกต้อง “ลองเริ่มจากเล่มแรกที่เป็นของไทย” ของกวี ก่อน ตั้งพื้นฐาน เมื่อเข้าใจแล้ว ค่อยเปลี่ยนกลยุทธ์ เปลี่ยนหนังสือ คำว่า “จนกว่าจะเจอสไตล์ของตัวเอง” คือการลงทุนที่ฉลาด


ขั้นตอนหลังอ่านจบ

ขั้นตอน 1:ทำความเข้าใจจากหนังสือเกี่ยวกับหุ้นทั้ง 5 เล่ม

ขั้นตอน 2:ลงทุนใน “หุ้นดัชนี” หรือ “กองทุนแบบพาสซีฟ” ก่อน ไม่ต้องหาหุ้นเดี่ยว

ขั้นตอน 3:ศึกษาค่อยๆ จากหุ้นไทยก่อน สบายๆ ลองลงทุนเมื่อสะดวก

ขั้นตอน 4:ตามเรื่องที่อ่าน ลงทุนในอนาคต ค่อยศึกษาหุ้นต่างประเทศ หุ้นเติบโต หุ้นยุ่งยากอื่นๆ


สรุป: อ่าน เข้าใจ ลงทุน

การอ่าน หนังสือเกี่ยวกับหุ้น ไม่ใช่การเดิมพันกับโชค แต่เป็นการเตรียมอาวุธก่อนลงสนาม ทั้ง 5 เล่มที่กล่าวมา แต่ละเล่มสอนมุมมองและสไตล์การลงทุนแตกต่างกัน ตั้งแต่ Value Investor ตามเกรแฮม ไปจนถึงการลงทุนเพื่อการเติบโตแบบ Lynch หรือแนวคิดเจ้าของธุรกิจแบบบัฟเฟตต์

ทุกคนมีวิธีของตนเองอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องค้นพบ นั่นคือคำตอบ 💡

查看原文
此頁面可能包含第三方內容,僅供參考(非陳述或保證),不應被視為 Gate 認可其觀點表述,也不得被視為財務或專業建議。詳見聲明
  • 讚賞
  • 留言
  • 轉發
  • 分享
留言
0/400
暫無留言
交易,隨時隨地
qrCode
掃碼下載 Gate App
社群列表
繁體中文
  • بالعربية
  • Português (Brasil)
  • 简体中文
  • English
  • Español
  • Français (Afrique)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • Português (Portugal)
  • Русский
  • 繁體中文
  • Українська
  • Tiếng Việt